ส่วนประกอบของ whitening/lightening
1.Propylene Glycol
สารชนิดนี้มีคุณสมบัติเป็นของเหลวที่ไม่มีสีไม่มีกลิ่นและสามารถละลายในแอลกอฮอล์และน้ำได้ดี จึงใช้เป็นตัวทำละลาย และมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์และต่อต้านเชื้อราได้ให้ผลเท่ากับเอทานอลที่ระดับปริมาณเท่ากัน โดยมีค่าระดับ PH ระดับกลาง นิยมใช้เป็นตัวทำละลายสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางหรือน้ำหอม
ส่วนประกอบของ whitening/lightening
1.Propylene Glycol
สารชนิดนี้มีคุณสมบัติเป็นของเหลวที่ไม่มีสีไม่มีกลิ่นและสามารถละลายในแอลกอฮอล์และน้ำได้ดี จึงใช้เป็นตัวทำละลาย และมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์และต่อต้านเชื้อราได้ให้ผลเท่ากับเอทานอลที่ระดับปริมาณเท่ากัน โดยมีค่าระดับ PH ระดับกลาง นิยมใช้เป็นตัวทำละลายสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางหรือน้ำหอม ผลิตภัณฑ์ที่นำสารตัวนี้มาใช้บ่อยๆคือ พวก Deodorants และ Antiperspirants พบในน้ำยาทำความสะอาดมือ ครีมโกนหนวดและเจล
ผลิตภัณฑ์ชั้นนำที่มีการใช้ส่วนผสมน้ำ อย่างเช่น Tom’s of Maine เป็นต้น
2.Paraffin
หรือเรียกอีกอย่างว่า Mineral oil เป็นน้ำมันที่ได้มาจากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลี่ยม ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว ป้อมกันผิวหนังแห้งตกสะเก็ด คัน และลดการระคายเคืองผิวหนัง มันจะทำหน้าที่เป็นชั้นฟิลม์เคลือบบริเวณผิวหนังชั้นบนป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียน้ำผ่านทางผิวหนัง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการรักษาบาดแผลที่มีประสิทธิภาพด้วย
ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่นำเอาส่วนผสมนี้มาใช้ อย่างเช่น Baby oil เป็นต้น
3.Cetearyl
คือสารที่มีคุณลักษณะเป็นแอลกอฮอล์ไขมันที่สกัดมาจากมะพร้าว เป็นสารให้เกิดความข้นในเนื้อครีม เป็นอิมัลชันเพื่อป้องกันไม่ให้สารเกิดการแยกตัวจากกันด้วย มีคุณสมบัติพิเศษ ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชี่นและเรียบเนียน
ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่นำเอาสารนี้มาเป็นส่วนผสม เช่น Ojon Dry Recovery Intensive Hydrating
4. Cetyl Alcohol
เป็นกรดไขมัน ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จากทั้งพืชและสัตว์ เราใช้เป็นส่วนผสมที่ทำให้เกิดความเข้มข้นในครีม และรักษาเสถียรภาพของฟอง และเป็นตัวที่ทำให้มีประสิทธิภาพในการเคลือบผิวและอ่อนโยนต่อผิว
ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่นำเอาสารนี้มาเป็นส่วนผสม เช่น Elizabeth Arden Flawless Moisture Cream ครีมกันแดด SPF 30
5.Shea Butter
เป็นกลุ่มกรดไขมันที่อุดมไปด้วยวิตามินลักษณะคล้ายเนย ได้มาจากการสกัดผลของต้น Karite ในทวีปแอฟริกาตะวันตก มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น เนียนขาว
ผลิตภัณฑ์ที่นำเอาส่วนผสมนี้มาใช้ เช่น Jack Black intense therapy lip balm SPF 25
6.Tocopheryl Acetate
เป็นวิตามินอีเสถียร ใช้มากที่สุดในวงการเครื่องสำอาง สามารถปกป้องเนื้อเยื้อเซลล์จากอนุมูลอิสระ สามารถปกป้องผิวจากริ้วรอยก่อนวัยที่มักจะเกิดขึ้นจากการถูกแสง UV และการ Peroxidation ของไขมันในผิว (ป้องกันการการสะสมของเมลานีนเวลาโดนแดด) ช่วยเพิ่มความคงอยู่ของเครื่องสำอาง
ผลิตภัณฑ์ชั้นนำที่ใช้ส่วนผสมนี้ เช่น Cream de La mer
7.Lavender Oil
เป็นน้ำมันที่ได้จากการสกัดดอกลาเวนเดอร์ ซึ่งนิยมใช้กันมานานแล้ว โดยน้ำมันลาเวนเดอร์นี้มีคุณสมบัติต่อผิวคือ ช่วยลดการอักเสบของผิวจากการโดนแดดเผา คืนความชุ่มชื่นให้กับผิว ฟื้นฟูสภาพผิว ลดสิว รักษาอาการแมลงกัดต่อย กำจัดสารพิษออกจากผิวหนัง
ผลิตภัณฑ์ชั้นนำที่นำมาใช้เป็นส่วนผสม เช่น Jean Paul Gautier Le Male
8. Glyceryl Stearate SE
เป็นสารเพิ่มความหนืดและเนื้อครีม และช่วยให้ของเหลวหรือน้ำมันไม่แยกตัวออกจากกัน
ผลิตภัณฑ์ชั้นนำที่นำมาใช้เป็นส่วนผสม เช่น Epice’ Skin Care
9.Cetearth-20
เป็นสารที่ช่วยลดแรงการตึงของผิวที่ไม่ทำให้เกิดประจุ มีคุณสมบัติเป็นอิมัลชัน ทำให้ครีมมีความคงตัวมากยิ่งขึ้น และสามารถละลายในน้ำได้ นิยมนำมาใช้ในกลุ่มเครื่องสำอาง
ผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้เป็นส่วนผสม เช่น Perricone MD
10.Carbomer
เป็นสารกลุ่มโพลิเมอร์ที่มีลักษณะเป็นแป้งขาวนุ่มๆ มักใช้เป็นสารเพิ่มความหนืด และช่วยให้สารแขวนตะกอนได้ดี มีคุณสมบัติช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์ที่นำเอาสารนี้มาใช้เป็นส่วนผสม เช่น Clinique Aromatics Elixir Body Smoother
11.Sodiem Polyacrylate
หรือที่รู้จักกันในนาม water lock มีความสมบัติในการดูดซับน้ำได้ไว และเป็นสูตรในการทำให้เกิด อิมัลชันฟิล์ม เป็นสารยึดเกาะและทำให้องค์ประกอบของสารต่างๆทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผลิตภัณฑ์ที่นำสารนี้มาเป็นส่วนผสม เช่น Eucerin Hyaluron Filler Concentrate
12.Ethylhexyl Stearate
เป็นสารสีเหลืองอ่อนๆที่มีคุณสมบัติทำให้ผิวนุ่ม เรียบเนียน พร้อมป้องกันการสูญเสียน้ำ
ผลิตภัณฑ์ที่นำสารนี้มาใช้เป็นส่วนผสม เช่น Pupa Viso Di Velluto 3 in 1
13.Trideceth-6
คือสารประเภท โพลีเอทิลีนไกลคอล ได้มีจากน้ำมันพืช มักนำมาใช้กับเครื่องสำอางต่างๆโดยใช้เป็น Surfactant และ Emulsifier
ผลิตภัณฑ์ที่นำสารนี้มาใช้เป็นส่วนผสม เช่น L’oreal Paris Advanced Haircare
14.Disodiem EDTA
เป็นสารที่ป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นเหม็นหืน และป้องกันการตกค้างของสารบนผิวหนัง ช่วยทำให้เกิดความสะอาดและทำให้เกิดฟองคงที่
ผลิตภัณฑ์ที่นำสารนี้มาใช้เป็นส่วนผสม เช่น Clinique aromatic elixir body smoother
15.Sodiem Hydroxide
เป็นสารช่วยขจัดความสกปรก และช่วยควบคุมและปรับสภาพความเป็นกรดและด่าง ของเครื่องสำอาง
ผลิตภัณฑ์ที่นำสารนี้มาใช้เป็นส่วนผสม เช่น แชมพู Redken for men
16.Phenoxyethanol
คือ Glycol ether และ Bactericide ทำให้ที่เป็นสารฆ่าเชื้อโรค และใช้เป็นสารกันบูดในเครื่องสำอางต่างๆ
ผลิตภัณฑ์ที่นำสารนี้มาใช้เป็นส่วนผสม เช่น Bamboo smooth Kendi oil Dry oil Mist
17.Caprylyl Glycol
คือสารคาร์บอน 8 ที่ช่วยป้องกันและชะลอการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และทำให้เครื่องสำอางไม่เน่าเสีย
ผลิตภัณฑ์ที่นำสารนี้มาใช้เป็นส่วนผสม เช่น Clinique smart repair serum
18.Sorbic Acid
เป็นสารต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ ชะลอการเติบโตและแพร่พันธุ์ และเป็นสารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารนี้เป็นส่วนผสม เช่น Dior skin nude